วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ก่อนจะสาย

วันเวลา...ของชีวิตที่เหลืออยู่
         

             ชายหนุ่มวัย 18 คนหนึ่งกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง... มะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้อีกแล้ว และก็พร้อมจะจากไปในทุกขณะ เขาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมาตลอด มีคุณแม่เป็นผู้ดูแล แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดเบื่อหน่ายชีวิตประจำวันอันจำเจซ้ำซาก อยากจะออกไปนอกบ้านสักครั้ง เมื่อรับรู้ความในใจของบุตรชายเช่นนั้นแล้ว ไหนเลยผู้เป็นมารดาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตาม เขาจึงมีโอกาสออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ผ่านร้านค้ามากมาย...จวบจนพบร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง เขาก็ต้องหยุดชะงัก จ้องมองเข้าไปในร้านแห่งนั้น..ที่นั่นเขาได้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง และในทันใดชายหนุ่มก็แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเธอคือรักแรกพบของเขาที่อุบัติขึ้น ณ บัดนั้น เขาเดินเข้าไปข้างในร้าน ขณะสายตาจับจ้องอยู่แต่เธอ กระทั่งมาหยุดยื่ตรงหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว "จะให้ฉันช่วยอะไรได้บ้างคะ" เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้ม ช่างเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัส มันทำให้เขาอยากประทับริมฝีปากเธอในทันที เขาตอบตะกุกตะกักออกไปว่า "เอ้อ ผมอยากได้ซีดีสักแผ่นครับ" จากนั้นก็ทำทีหันไปเลือกซีดีได้แผ่นหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้งเพื่อชำระเงิน "คุณอยากให้ฉันห่อกระดาษด้วยมั้ยคะ" เธอถามพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยอีกหน เขาพยักหน้า เธอจึงหันหลังไปจัดการให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม กลับมาถึงบ้านเขาจัดการเก็บแผ่นซีดีไว้ในตู้ เพราะไม่ได้สนใจบทเพลงในแผ่นซีดีแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจก็คือคนขายนั่นต่างหาก หลังจากวันนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็แวะเวียนไปที่นั่นเป็นประจำทุกวัน ซื้อซีดีมาวันละแผ่นเสมอ พร้อมกับอนุญาตให้หญิงสาวห่อกระดาษทุกครั้ง รวมทั้งเมื่อกลับมาบ้านก็เก็บมันไว้ในตู้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา เขารู้สึกขวยเขินที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งๆที่เบื้องลึกนั้นปรารถนาเหลือเกิน แต่ก็...ไม่กล้าพอ เมื่อคนเป็นแม่รับรู้ในเวลาต่อมาท่านก็คะยั้นคะยอให้ลูกชายทำตามใจปรารถนาของตน รุ่งขึ้นเขาจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมด ไปยังร้านนั้นอีกครั้ง ซื้อซีดีหนึ่งแผ่นเหมือนวันก่อนๆ และระหว่างที่เธอหันหลังให้นั้น เขาก็ตัดสินใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้บนโต๊ะก่อนวิ่งออกจากร้านไป สองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จึงรับสายและพูดว่า "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวในร้านขายซีดีนั่นเองที่เป็นผู้โทรมา เมื่อสาวน้อยถามหาคนเป็นลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็เริ่มร่ำไห้ แล้วบอกว่า "หนูคงไม่รู้หรอกว่า...เขาเพิ่งจากไปเมื่อวานนี้เอง" ถัดจากนั้นเสียงจากคนถามก็คล้ายจะถูกปลิด คงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆของผู้เป็นแม่ ในวันนั้นเอง ผู้เป็นแม่ก็เข้าไปในห้องของลูกชายเพื่อหวนระลึกถึงเขาอีกครั้ง... เริ่มด้วยการสัมผัสเสื้อผ้าที่เขาเคยสวมใส่ และทันทีที่เปิดประตูตู้ ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบซีดีที่ยังห่อกระดาษไว้ กองอยู่เต็มไปหมด คุณแม่เลือกหยิบมาแผ่นหนึ่ง นั่งลงบนเตียงและเริ่มแกะออกดู ทันใดนั้นก็มีกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งหล่นลงมา คุณแม่หยิบมันขึ้นมาอ่าน "สวัสดีค่ะ คุณดูน่ารักจังเลย คิดอยากออกไปเที่ยวกับฉันบ้างรึเปล่า" กระทั่งเธอแกะซีดีแผ่นถัดๆมา ก็ยังพบกระดาษแผ่นเล็กๆ มีข้อความเช่นเดิม... อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง.....อ่านแล้วคิดว่า เวลาของชีวิตแต่ละคนสั้นนัก เพราะฉะนั้น "จงทำในสิ่งที่อยากทำ ทำให้ดีที่สุด ก่อนจะสายเกินไป"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น